กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียลและสร้างความฮือฮาให้ เว็บสล็อตออนไลน์ กับเจ้าหน้าที่และคนที่ไปรอทำบัตรประชาชนเป็นอย่างมาก เมื่อ นางสาวรมยกร รัตนาวลีราเมศวร์ ยกร ปัจจุบันประกอบอาชีพค้าขาย สวมชุดไทยไปขอทำบัตรประชาชนใหม่ที่เทศบาลนครภูเก็ต เพราะนอกจากความสวยงามของชุดที่สวมใส่แล้ว ผู้สวมใส่ยังมีความสวยงามสะดุดตาอีกด้วย
นางสาวรมยกร กล่าวว่า ตัวเองมีความชื่นชอบเสน่ห์ของชุดไทย ประกอบกับช่วงนี้อยู่ในกระแสละคร “บุพเพสันนิวาส”
กำลังมา และมีคนจำนวนมากที่แต่งชุดไทยไปทำบัตรประจำตัวประชาชน จึงแต่งมาขอทำบัตรประจำตัวประชาชนบ้าง ซึ่งปกติไม่ค่อยจะใครแต่งชุดไทยมาทำบัตรกัน นอกจากนั้นตนยังต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย จึงสวมใส่ชุดไทยมาทำบัตรประชาชน
อย่างไรก็ตามในส่วนของเทศบาลนครภูเก็ตเองก็ได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบเกี่ยวกับการแต่งชุดไทยมาทำบัตร ว่า สำหรับประชาชนที่บัตรหมดอายุ บัตรชำรุด หรือ บัตรหาย และมีความประสงค์จะแต่งชุดไทยมาทำบัตรประชาชน ณ สำนักทะเบียนท้องถิ่นเทศบาลนครภูเก็ต ขอความร่วมมือแต่งกายด้วยชุดไทยที่สุภาพเรียบร้อย ไม่เปิดไหล่ และ ไม่ใส่ชุดไทยคอกระเช้า โดยทางเทศบาลเปิดให้บริการทำบัตรประชาชน วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 น. – 16.30 น. และ วันเสาร์ เวลา 09.00 น. – 16.00 น.
สาวใจบุญ พร้อมเพื่อนๆ นำระฆังขนาดยักษ์บริจาค ให้วัดเขาสามหน่วย อ.คลองท่อม วันที่ 9 เม.ย.61 นาง โชติกา หงษ์สกุล อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 451/68 หมู่2 ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ พร้อมญาติและเพื่อนๆ ได้นำระฆังขนาดใหญ่ ที่ทำจาก ทองเหลือง ขนาดเส้นผ่าศูนย์ ความกว้าง 48 เซนติเมตร สูง 95 เซนติเมตร มอบให้วัดเขาสามหน่วย ม.3 ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ หลังถูกคนร้ายขโมยระฆังที่อยู่คู่วัด มากว่า 20ปี หลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560ที่ผ่านมา โดยมีพระสมบูรณ์ สมหวัง เจ้าอาวาส เป็นผู้รับมอบ ท่ามกลางความยินดีของ ประชาชนชน ในพื้นที่ และใกล้เคียง
นางโชติกา เปิดเผยว่า ตนทำงานบริษัทเกี่ยวกับส่งออกสินค้า และได้ทราบข่าวว่า ทางวัดเขาสามหน่วย ได้รับความเดือดร้อน ถูกคนร้ายขโมย ระฆังของวัด และ ทราบว่า ชาวบ้านได้ช่วยกันซื้อระฆังมาทดแทนชั่วคราวแต่มีขนาดเล็ก จึงได้ไปสั่งทำระฆังขนาดใหญ่ ที่จังหวัดอุบลราชธานี ในราคา 40,000 บาท และนำมาบริจาคให้ทีวัดดังกล่าว เพื่อต้องการที่จะทำบุญให้กับวัด เพื่อ ความสิริมงคลแก่ตนเอง และครอบครัว
ด้านพระสมบูรณ์ เจ้าอาวาส เปิดเผยว่า คนร้ายขโมยระฆัง ของทางวัด เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม60 ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ได้ไปแจ้งความไว้แล้ว และฝากบอกไปยังคนที่ขโมย ให้เอามาคืน ทางวัดไม่ติดใจเอาความ แต่จนถึงตอนนี้ก็ไร้วี่แววคนร้าย ทำให้เดือดร้อน ไม่มีระฆังตีบอกเวลากิจของสงฆ์ ชาวบ้านก็ระดมเงินบริจาคซื้อมาให้วัด ได้ใช้ชั่วคราว ซึ่งตอนนี้ ทางผู้ใจบุญก็ได้นำมามอบให้ และก็ขอให้สีกาผู้ใจบุญ เพื่อนๆ และครอบครัวมีความสุขความเจริญ
เจอมือบอนละเลงเละ ขีดเขียนขอบสระมรกต ทำลายธรรมชาติ ยับ
วันที่ 8 เมษายน 61 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่สระมรกต ภายในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม อ.คลองท่อม จ.กระบี่ แหล่งท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม จากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ถูกคนมือบอนใช้ของแข็งไปขีดเขียน สลักชื่อ และรูปภาพต่างๆ ตามขอบสระ ซึ่งเป็นหินดินดาน เป็นการทำลายทัศนียภาพและความสวยงามของสระมรกต ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบมีทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติจำนวนมาก
เดินทางมาท่องเที่ยวภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม พร้อมลงเล่นน้ำภายในสระมรกต ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ สีของน้ำงดงามเป็นสีเขียวมรกตสมกับชื่อของสระมรกตกันอย่างสนุกสนาน แต่บริเวณขอบสระซึ่งมีลักษณะคล้ายกับหินดินดาน กลับมีรอยขีดเขียน สลักชื่อด้วยของแข็ง บ้างเป็นตัวหนังสือคล้ายกับภาษาอังกฤษ บางก็ลากเป็นทางยาว ไม่มีความหมาย บนเนื้อที่ประมาณ 1 เมตรของขอบสระ
โดยนักท่องเที่ยวบางคนบอกว่าเห็นแล้วหดหู่ และไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง กับรอยขีดเขียนบนแผ่นหินขอบสระมรกต ที่เกิดขึ้น เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นสิ่งที่ล้ำค่า และเป็นอันซีนของจังหวัดกระบี่ และของประเทศ หากปล่อยไว้จะมีคนขีดเขียนเพิ่มเติมอีกอย่างแน่นอน เชื่อน่าจะเป็นการขีดเขียนเพื่อเป็นที่ระลึก ว่าครั้งหนึ่งเคยได้มาเที่ยวที่ตรงนี้ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ได้มีการติดป้ายเตือนให้นักนักท่องเที่ยวเห็นถึงความสำคัญของสถานที่แห่งนี้
ด้านนายวุฒิพงษ์ ชูสังฆ์ราช หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม ได้เห็นรอยขีดเขียนที่เกิดขึ้นตามขอบสระมรกตแล้วรู้สึกเสียดายและหดหู่เป็นอย่างมาก ไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตามได้แจ้งกำชับให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการสอดส่องดูแลพฤติกรรมกลุ่มนักท่องเที่ยวบริเวณสระมรกต และให้ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบและห้ามการกระทำดังกล่าวเด็ดขาด ซึ่งหากว่าเจ้าหน้าที่พบหรือเจอในขณะขีดเขียน
เบื้องต้นก็จะว่ากล่าวตักเตือนก่อนพร้อมทำประวัติไว้แล้วเชิญออกจากพื้นที่เลยแต่หากพบการกระทำซ้ำซากก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป แต่อย่างไรก็ตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ก็ยากที่จะตรวจสอบพบเห็นในขณะที่นักท่องเที่ยวกำลังขีดเขียน เนื่องจากแต่ละวันนักท่องเที่ยวใช้บริการบริเวณสระมรกตจำนวนมาก เว็บสล็อต